วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบ 16 ทึมสุดท้าย นัดแรก)
แอตเลติโก มาดริด (สเปน) -VS- เชลซี (อังกฤษ)
เวลา : 03:00 น.
สนาม : อารีน่า นาซิอองนาเล่ (บูคาเรสต์ - โรมาเนีย)
01/09/12 เชลซี 1-4 แอตเลติโก มาดริด (ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ)
23/04/14 แอตเลติโก มาดริด 0-0 เชลซี (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
01/05/14 เชลซี 1-3 แอตเลติโก มาดริด (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
28/09/17 แอตเลติโก มาดริด 1-2 เชลซี (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
06/12/17 เชลซี 1-1 แอตเลติโก มาดริด (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)
31/01/21 ชนะ กาดิซ 4-2 (เยือน, ลา ลีกา)
09/02/21 เสมอ เซลต้า บีโก้ 2-2 (เหย้า, ลา ลีกา)
13/02/21 ชนะ กรานาด้า 2-1 (เยือน, ลา ลีกา)
17/02/21 เสมอ เลบันเต้ 1-1 (เยือน, ลา ลีกา)
20/02/21 แพ้ เลบันเต้ 0-2 (เหย้า, ลา ลีกา)
04/02/21 ชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
07/02/21 ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
11/02/21 ชนะ บาร์นสลี่ย์ 1-0 (เยือน, เอฟเอ คัพ)
15/02/21 ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 2-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
20/02/21 เสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
เจ้าถิ่น แอตเลติโก มาดริด จ่าฝูงลา ลีกา ของโค้ช ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ หมดสิทธิ์ใช้งาน คีแรน ทริปเปียร์ ติดโทษแบน รวมทั้ง โฮเซ่ มาเรีย กิเมเนซ, ซิเม่ เวอร์ซัลโก้ และ ยานนิค แฟร์เรร่า การ์ราสโก้ บาดเจ็บ ด้าน เอคตอร์ เอร์เรร่า ต้องเช็คความฟิต
ส่วน ซาอูล ญีเกซ กับ สเตฟาน ซาวิช ติดโทษในเกมลา ลีกา นัดล่าสุดจะกลับมาเป็นตัวจริงพร้อม โกเก้, หลุยส์ ซัวเรซ, มาร์กอส ยอเรนเต้, อังเคล กอร์เรอา, มาริโอ เอร์โมโซ่, ยาน โอบลัค และ ชูเอา เฟลิกซ์ โดยมี โตมาส์ เลอมาร์, บีโตโล่, เจฟเฟรย์ กอนด็อกเบีย, ลูคัส ตอร์เรร่า และ มุสซ่า เดมเบเล่ เป็นตัวสนับสนุน
ซีกทีมเยือน เชลซี ทีมอันดับ 4 บนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกของผู้จัดการทีมคนใหม่ โธมัส ทูเคิ่ล ได้ ติอาโก้ ซิลวา กับ ไค ฮาแวร์ทซ์ หายเจ็บกลับมาซ้อมกับทีมแล้ว ด้าน แทมมี่ อบราฮัม กับ คริสเตียน พูลิซิช ต้องเช็คความฟิต
ทำให้การจัดทัพตามหมาก 3-4-2-1 ติอาโก้ ซิลวา อาจฟิตพร้อมคืนสนามคุมแนวรับ และส่ง โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ยืนค้ำแดนหน้าแทน แทมมี่ อบราฮัม ส่วนตำแหน่งอื่นยังประจำการด้วย เมสัน เมาน์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และ ติโม แวร์เนอร์ ทำให้ จอร์จินโญ่, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, ฮาคิม ซีเย็ค, คูร์ท ซูม่า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น และ เบน ชิลเวลล์ ต้องรอโอกาส
แอตเลติโก มาดริด (3-4-3) : ยาน โอบลัค - สเตฟาน ซาวิช, เฟลิเป้, มาริโอ เอร์โมโซ่ - มาร์กอส ยอเรนเต้, โกเก้, ซาอูล ญีเกซ, เรนาน โลดี้ - ชูเอา เฟลิกซ์, อังเคล กอร์เรอา, หลุยส์ ซัวเรซ
เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ เมนดี้ - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ - รีซ เจมส์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช, มาร์กอส อลอนโซ่ - เมสัน เมาน์, ติโม แวร์เนอร์ - โอลิวิเยร์ ชิรูด์
แอตเลติโก ฟอร์มช่วงหลังยังดีเยี่ยม แม้หลังซิวชัย 4 เกมซ้อน ก่อนกำชัยเหลือเกมเดียวจากการลงสนาม 4 นัดหลัง และเสมอกับแพ้เท่านั้นใน 2 นัดหลังสุด ทำให้เพิ่งพ่ายเป็นเกมแรกในรอบ 8 นัดที่ผ่านมาในเกมล่าสุด แต่ทั้งแนวรับ-รุกยังเล่นหวังผลได้ตามมาตรฐานของตัวเอง
เชลซี ฟอร์มระยะหลังยังดีเยี่ยมด้วยการควบคว้าชัย 5 เกมติดต่อกันจาก 6 นัดหลัง ก่อนเสมอหยุดผลงานชนะรวดในเกมล่าสุด แต่เก็บชัยรวม 6 เกมจาก 8 นัดหลัง และไร้พ่ายตลอด 8 นัดที่ผ่านมา พร้อมเกมรับ-รุกกำลังเล่นในทิศทางที่ดี แต่แมตช์นี้ "ตราหมี" แม้ไม่ได้เป็นต่อ แต่ลงตัวมากกว่า และเขี้ยวลากดินในเกมยุโรปรอบน็อคเอาต์จะเก็บผลเสมอจาก "สิงโตน้ำเงินคราม" ได้ก่อนเป็นอย่างน้อย
สนับสนุนโดยเว็บไซต์ ดูบอล